ความสำเร็จในความขี้เกียจ

คนส่วนใหญ่มักถูกปลูกฝังให้เป็นคนขยันตั้งแต่เด็ก เพราะเชื่อว่าคนขยันเอาการเอางานจะนำมาซึ่งความสำเร็จในชีวิต แต่ยุคสมัยที่เปลี่ยนไป คนขยันก็ใช่ว่าจะประสบความสำเร็จเสมอไป และคนขี้เกียจก็ไม่ได้แปลว่าจะไม่ประสบความสำเร็จเหมือนกัน หากเรารู้ตัวว่าเป็นคนขี้เกียจเราก็สามารถใช้ความฉลาดหรือขยันให้มากขึ้นเพื่อชดเชยให้ประสบความสำเร็จ

.

คนขี้เกียจ มักจะมีการวางแผนที่ดี

ถ้าเรารู้ว่าเราเป็นคนขี้เกียจ เราก็ต้องมีการวางแผนที่ดี เช่น จะไปห้างสรรพสินค้าหนึ่งครั้งต้องซื้อของให้ได้ครบ ต้องมีการทำเช็กลิสต์วางแผนมาว่าจะเข้าร้านไหนก่อนร้านไหนเข้าทีหลัง เช่นเดียวกับการทำงานเราอาจจะลิสต์ออกมาให้หมดว่าเราต้องทำอะไรบ้างเพื่อที่เราจะได้รู้ว่าเราจะได้พักตอนไหน

คนขี้เกียจ มักรู้เวลาไหนคือเวลาเล่น เวลาไหนคือเวลาทำงาน

คนขี้เกียจจะรู้ว่าช่วงเวลาไหนบ้างที่สามารถขี้เกียจได้เต็มที่และช่วงเวลาไหนบ้างที่จจะต้องตั้งใจทำงานมากขึ้น และที่สำคัญคนขี้เกียจจะไม่วิตกกังวลกับ Deadline มากจนเกินไป

คนขี้เกียจ มักจะโฟกัสที่เป้าหมายของตนเอง

สำหรับคนขี้เกียจโดยส่วนใหญ่พวกเขามักจะไม่ใส่ใจกับคำพูดของคนอื่นเท่าไหร่ โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อเป็นคำแนะนำในการวางแผนชีวิตให้เป็นไปตามสิ่งที่คนอื่นคาดหวัง ซึ่งนั่นจะทำให้พวกเขาโฟกัสกับเส้นทางชีวิตของตัวเองได้ดียิ่งขึ้นและไม่เสียเวลาอยู่กับการทำตามคำแนะนำของคนอื่นมากนัก

คนขี้เกียจ มักจะรู้วิธีผ่อนคลายในการใช้ชีวิตมากกว่า

คนขี้เกียจสามารถรักษาสมดุลระหว่างชีวิตการทำงานและชีวิตส่วนตัวได้อย่างมีประสิทธิภาพ พวกเขามักจะรู้สึกผ่อนคลายในการใช้ชีวิตมากกว่าคนทั่วไป เพราะพวกเขามองว่าการทำงานไม่ใช่ทุกสิ่งทุกอย่างของชีวิต ชีวิตยังมีอะไรอย่างอื่นให้ลองทำอีกมากมาย

คนขี้เกียจ มักจะมองหาวิธีการทำงานที่รวดเร็ว แต่มีประสิทธิภาพมากที่สุดอยู่เสมอ

คนขี้เกียจส่วนใหญ่จะต้องหาวิธีการทำงานที่ทำให้งานเสร็จเร็วที่สุด เพื่อจะได้เอาเวลาไปพักผ่อนส่วนตัวไม่ว่าวิธีนั้นจะเป็นไปตามสิ่งที่คนอื่นทำกันมาอยู่แล้วหรือไม่ก็ตาม ผลลัพธ์ที่ได้ คือ พวกเขาก็มักจะค้นพบวิธีการทำงานรูปแบบใหม่ ๆ ที่ช่วยให้งานเสร็จเร็วขึ้น แต่ยังคงประสิทธิภาพการทำงานไว้ได้

คนขี้เกียจ มักมีความคิดสร้างสรรค์

ตามปกติของคนที่ขี้เกียจเรื่องเวลาจะสำคัญสำหรับพวกเขา เพราะสิ่งที่พวกเขาทำคือทำให้ชีวิตเรียบง่ายที่สุดทำเรื่องยากให้เป็นเรื่องง่ายที่สุด หาทางเพื่อให้กระบวนทำงานสามารถประหยัดเวลามากที่สุด เพื่อจะได้ไม่ต้องสิ้นเปลืองพลังกาย พลังสมองมาก ดังนั้น ความครีเอทเหล่านั้นจะทำให้ปิ๊งไอเดียง่าย ๆ

.

.

ที่มาข้อมูล : สรุปเนื้อหามาจากหนังสือ “สำเร็จได้สไตล์คนขี้เกียจ” 
ผู้เขียน : Naoyuki Honda (นะโอะยุกิ ฮนดะ)
ผู้แปล : สุธาสินี ขจร